วิธีทำเห็ดนางฟ้า พอสังเขป

การทำเห็ดนางฟ้านั้นมีขั้นตอนหลายขั้นตอน
วัสดุเพาะอาหารเห็ดนางฟ้า ได้แก่ ขี้เลื่อยยางพารา ฟางข้าว เศษเปลือกถั่ว ซังข้าวโพด ขี้เลื้อยไม้ทั่วไป เป็นต้น
อาหารที่เห็ดนางฟ้าชอบมากที่สุดจากที่กล่าวมาข้างต้นก็คือ ขี้เลื่อยไม้ยางพารา ถ้าเป็นขี้เลื่อยไม้ยางพาราแล้วล่ะก็เห็ดนางฟ้าจะเดินเส้นใยการเจริญเติบโตได้ดีมากจนกระทั่งออกดอกก็ให้ดอกที่ดกมากกว่าวัสดุอย่างอื่น แต่ไม่ได้หมายความว่าเห็ดนางฟ้าจะกินขี้เลื่อยไม้ยางพาราเพียงอย่างเดียวหรอกนะ เพราะจะต้องมีอาหารอย่างอื่นเข้ามาเป็นองค์ประกอบด้วย ก็คงคล้ายกับคนที่เวลารับประทานอาหารแล้วชอบการปรุงแต่งรสชาดให้กลมกล่อมมากยิ่งขึ้น (จริงๆคำตอบทางวิชาการอาจจะมีนะ)
เข้าเรื่องเลยดีกว่า
วัสดุที่นิยมนำมาเป็นวัสดุเพาะอาหารให้เห็ดนางฟ้ามีดังต่อไปนี้ (ใช้อัตราส่วนต่อไปนี้สำหรับขี้เลื่อยไม้ยางพารา 100 กก.)
1. ขี้เลื่อยไม้ยางพารา (แห้ง) 100 กก.
2. รำละเอียด(จากโรงสีอาจมีเศษข้าวสารปนจะร่อนออกหรือไม่ร่อนออกก็ได้) 5 กก.
3. แป้งข้าวเหนียว 0.35 กก. (3.5 ขีด)
4. ปูนขาว 0.35 กก. (3.5 ขีด)
5. ปุ๋ยสูตร 15-15-15 0.35 กก. (3.5 ขีด)
6. น้ำ 60 กก. (60 ลิตร)
ส่วนประกอบเพิ่มเติมอื่นๆจะใส่ก็ได้ไม่ใส่ก็ได้ เช่น น้ำหมักสูตรผลไม้รวม 0.5 ลิตร ฮอร์โมนไข่ 0.25 ลิตร หรืออื่นๆ

เมื่อตวงชั่งส่วนผสมต่างๆครบถ้วนแล้วต่อไปให้นำส่วนผสมทุกอย่างโรยผสมคลุกเคล้าให้เข้ากัน จะโดยวิธีใดก็ได้ ยกตัวอย่างอย่างง่ายเลย เช่น
ใช้พลั่ว (ถูกต้องแล้วครับพลั่ว) พลิกไปพลิกมาโดยตักจาบริเวณขอบฐานของกองขึ้นไปบนยอดกองให้วัสดุไหลตกตามแรงโน้มถ่วงของโลกลงมาทำอย่างนี้หลายๆรอบจนวัสดุทุกอย่างเข้ากันดีแล้ว
ขั้นต่อไปคือเพิ่มความชื้นโดยการใส่น้ำลงไปให้ทั่วแล้วผสมคลุกเคล้ากันอีกรอบ คราวนี้จะหนักแรงกว่าเพราะมีน้ำเข้ามาเป็นส่วนผสม การใส่น้ำนี้จะไม่ใส่ทีเดียวทั้ง 60 ลิตร แต่จะค่อยๆทะยอยใส่ไปจนกระทั่งเราทดสอบดูด้วยการกำแล้วปล่อยมือขี้เลื่อยไม่แตกถือว่าใช้ได้ แต่ไม่ใช่ว่าใส่จนชุ่มเปียกจะใช้ไม่ได้ต้องเติมขี้เลื่อยเข้าไปให้ความชื้นน้อยลง
ขั้นต่อไปเป็นอีกขั้นที่เมื่อยมาก คือ กรอกขี้เลื่อยที่เราผสมนี้ใส่ถุงพลาสติก ขนาด 9x15 นิ้ว แล้วชั่งหรือกะประมาณให้ได้ 0.8-1 กก. แล้วแต่ว่าต้องการก้อนยาวหรือก้อนสั้นตามที่เห็นว่าสมควร (0.8 ก้อนจะสั้นเชื้อจะเดินถึงก้นถุงได้เร็วกว่าก้อนยาว)
ต่อไปตบอัดก้อนให้มีความแน่นโดยกระแทกถุงหรือใช้ไม้ตีขอบด้านบนถุง หรือถ้าใครมีเงินใช้เครื่องอัดก้อนเชื้อเห็ดที่มีขายทั่วไป จากนั้นใส่คอขวดแล้วดึงขอบถุงให้ถุงตึงจากนั้นปิดฝาพลาสติกที่ทำมาเฉพาะ(ฝาและคอขวดสามารถสั่งซื้อได้ทั่วไปแถวหน้ามหาวิทยาลัยเกษตรบางเขนหรือตามอินเตอร์เน็ต)
เมื่อกรอกเสร็จแล้วกองขี้เลื่อย 100 กก. จะได้ ประมาณ 200 ก้อน
จากนั้นเข้าเตาอบนึ่งความดัน ถ้าแบบลูกทุ่งก็ใช้ถังแกลลอนน้ำมัน 200 ลิตร ใส่น้ำสูงประมาณ 10 เซนติเมตร ใส่ชั้นรองก้อนแล้วใส่ก้อนจะได้ประมาณ 90 ก้อนต่อ 1 ถังแกลลอน หรือแบบลูกทุ่งอีกแบบหนึ่งคือใช้แท้งค์น้ำสี่เหลี่ยมที่เป็นเหล็ก(แท้งค์รุ่นเก่า)ทำเหมือนกัน แท้งค์น้ำจะได้ประมาณ600-700 ก้อน ต่อ 1 แท้งค์ ปิดฝานึ่งโดยใช้ฟืนดุ้น ใช้เวลานึ่งประมาณ4-5 ชั่วโมง นับจากเวลาเดือด
ต่อจากนั้นรอให้อุ่นหรือเย็นลงแล้วค่อยเอาลงจากหม้ออบความดัน
เมื่อก้อนเย็นแล้วหยอดเชื้อเห็ดที่เป็นเมล็ดข้าวฟ่างที่เราควรเตรียมไว้ก่อน 1 คืนก่อนก้อนเชื้อเห็ดเย็นตัวลง ขณะหยอดเราต้องฉีดพ่นแอลกอฮอล์ด้วยทุกครั้งเพื่อฆ่าเชื้อโรคที่อาจติดมากับมือหรือเสื้อผ้าของเราให้สะอาดปลอดเชื้อโรค
เมื่อหยอดเมล็ดข้าวฟ่างที่เป็นเชื้อเห็ดนางฟ้าแล้วเสร็จก็ต้องรีบนำกระดาษหนังสือพิมพ์ที่ตัดเป็นรูปสี่เหลี่ยมเล็กๆที่ควรเตรียมไว้ก่อนเช่นกันนี้โดยทันทีรัดด้วยหนังยางกระติ๊กซัก3-4ทบ ให้แน่นป้องกันเชื้อโรคหรือแมลงเข้าไปกัดกินหรือทำลายเชื้อเห็ดและอาหารเห็ดที่อยู่ในถุง
เมื่อมาถึงขั้นตอนนี้แล้วก็เป็นอันว่าเกือบเสร็จ ที่บอกว่าเกือบเสร็จก็เพราะว่าจะต้องนำก้อนที่เพิ่งเติมเชื้อเห็ดนางฟ้านี้เข้าโรงบ่มต่อไป ใช้เวลาบ่มเชื้อกว่าเชื้อจะเดินถึงก้นถุงก็ประมาณ 1 เดือน
...
...
เมื่อเชื้อเดินถึงก้นถุงแล้วก็ทำการเปิดดอกเห็ดต่อไป อาจจะย้ายไปเข้าโรงเห็ดที่เตรียมไว้ รดน้ำให้ความชื้นกับก้อนเห็ดทุกวันให้อุณหภูมิโรงเรือนอยู่ประมาณ 26 องศาเซลเซียส โดยประมาณ อีกประมาณ ไม่เกิน 1 อาทิตย์ก็จะได้ดอกเห็ดนางฟ้ามารับประทานหรือจำหน่ายต่อไป